##ตะลึงตาค้าง !!! "3พี่น้อง" สร้างกระท่อมหลังเล็กๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พอเห็นข้างใน เท่านั้น! แทบไม่น่าเชื่อกับภาพที่อยู่ตรงหน้า โคตรอลังการ น่าอยู่มาก !!! (มีภาพ)

#ตะลึงตาค้าง !!! "3พี่น้อง" สร้างกระท่อมหลังเล็กๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พอเห็นข้างใน เท่านั้น! แทบไม่น่าเชื่อกับภาพที่อยู่ตรงหน้า โคตรอลังการ น่าอยู่มาก !!! (มีภาพ)

หากจะสร้างบ้านไม่ว่าจะหลังเล็กหรือหลังใหญ่ ถ้าเป็นบ้านที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรง และไอเดียของเราก็คงสร้างความภาคภูมิใจให้กับเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี และบ้านในฝันของใครหลายๆคนนั้น คงหนีไม่พ้น การมีบ้านหลังเล็ก ๆ บนดอยที่มีอากาศเย็นสบายทั้งปี ตื่นตั้งแต่เช้ามาก็เจอกับพระอาทิตย์และสายหมอก เช่นเดียวกับ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมที่มีชื่อว่า "canx" ที่ได้ไปสร้างกระท่อมไม้ไผ่น้อย ๆ อยู่บนดอย ถึงแม้จะไม่ใช่บ้านที่ใหญ่โต หรูหรา แต่ก็ต้องบอกว่าน่าอยู่มากๆเลยทีเดียว

โดย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมที่มีชื่อว่า "canx" ได้ออกมาตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปในหัวข้อ "บ้านน้อยของผม...ตอนอายุหนึ่งขวบ" พร้อมกับระบุเรื่องราวต่างๆเอาไว้ดังนี้ " สวัสดีครับ... แวะเวียนเข้ามาห้องชายคา อยู่เป็นประจำ (เวลาที่ต้องการข้อมูล แฮะๆๆ) ได้เห็นรูปบ้านและไอเดียของแต่ละท่านแล้ว วันนี้เลยเอารูปกระท่อมน้อยของผมมาให้ชมกันบ้างนะครับ"

ขอย้ำว่ากระท่อมจริง ๆ นะ

อันที่จริงก็ปีกว่าแล้วนะครับ ที่ได้ที่ผืนนี้มา แต่ได้มีเข้าไปซุกนอนจริง ๆ ก็วันนี้แหละครับ

อยู่บนดอยนะครับ...ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่ามาก ๆ ถือว่าเริ่มจากศูนย์เลยแล้วกันนะเรา ตอนแรกนึกว่าต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในบ้านน่าจะเป็นต้นกล้วย...แต่ลืมไปว่าเค้าแถมกอไผ่มาให้ 3 กอกับต้นนุ่นสวย ๆ อีก 3 ต้นด้วยนะเออ

เป็นบ้านหลังแรกนะครับ ที่เป็นของตัวเองถึงจะเป็นกระท่อมก็เฮอะ

แล้วก็ภูมิใจมาก ๆ เพราะสร้างเองกับมือ...อันนี้โม้ได้หน่อย แหะ ๆ ๆ

มีคนเค้าถามว่า ทำไมไม่จ้างเขาล่ะ ? สร้างเองแล้วมันจะอยู่กันได้มั้ยนั่น ได้สิพี่...ไม่มีอะไรเกินพยายามนี่ครับ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยตอกตะปูก็เฮอะ สู้ซะอย่าง ขอบอกว่าแข็งแรงทนทานมาก ๆ เพราะเป็นกระท่อมไม้ไผ่เสริมเหล็กนะท่าน...เหล็กจากไหนหว่า ??? ก็จากตะปูนะสิครับพี่ ค่าตะปูนี่พอ ๆ กับค่าไม้เลยมั้ง แต่ก็ถือว่าทำบุญมาดีนะครับ เพราะได้เพื่อนบ้านที่ดีอย่างอ้ายไก่ มาเป็นครูคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือในทุกโอกาส

แป๊บเดียวเอง เห็นมั้ย เสร็จแล้วครับ ใช้แรงงานหนุ่ม ๆ 3 คนพี่น้องนี่แหละครับ กับอ้ายไก่อีกคนที่แวบ ๆ ภรรยามาช่วยบางวัน

กระท่อมน้อยหลังนี้ตอนแรกคิดว่าจะสร้างไว้อยู่ชั่วคราวนะครับ เอาไว้นอนกัน 3 คนนี่แหละ แล้วก็ใช้เก็บของด้วย เพราะกว่าจะสร้างบ้านถาวรจริง ๆ เสร็จคงอีกหลายเดือน...แต่ทำไปทำมา หลังนี้แหละอยู่ชั่วคราวมาปีนึงแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะ อยู่เย็นเป็นสุขดีด้วย ฮ่า ๆ ๆ

แต่ฝนคือปัญหาหลักของเรา เพราะบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ 3 คน หน้าฝนออกไปไหนไม่ได้ ก็ได้แต่มองตากันสิครับท่าน ก็เลยเป็นเหตุให้ต้องสร้างศาลาอันนี้มาอีกอัน ไว้นั่งเล่น ไว้ทำกิจกรรมเวลาฝนเอยเทลงมา เทลงมา ฮ่า ๆ ๆ

แต่ศาลานี้ต้องพึ่งช่างเค้าแล้วล่ะครับ เพราะอยากทำให้มันแข็งแรงถาวร แล้วก็ค่อนข้างสูงโปร่งหน่อยนะครับ ตอนแรกก็เป็นศาลาพื้นดินธรรมดา แต่พอฝนตกก็แฉะไปหมด เลยจัดการโมดิฟายใหม่ทั้งเทพื้น ทำบ่อปลา กั้นด้านหลังไว้เก็บของแล้วก็ทำงาน ข้างล่างก็ต่อห้องน้ำออกมาอีกหน่อย

ได้ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงตัวบ้านจริง ๆ อย่างที่บอกนะครับว่ามีกัน 3 หนุ่ม ก็เลยขอสร้างกันคนละหลังซะเลย อย่างที่ตั้งใจไว้แต่ว่าอยากได้บ้านเรือนหมู่เหมือนเรือนไทยสมัยก่อน ก็เลยสร้างเป็นหลังเล็ก ๆ หลังใครหลังมันนะครับ โดยแยกห้องนั่งเล่น ห้องครัวไปใช้รวมกัน ก็เลยได้มาแบบนี้นะครับ

แบบบ้านก็ออกแบบกันเองนี่แหละครับ ไม่เปลืองตังค์ดี ฮ่า ๆ ๆ ไม่ได้พิเศษอะไรมากมาย ลองนึกถึงตอนประถมดูนะครับ เรียนวาดเขียนแล้วเคยวาดบ้านทรงนี้มั้ยครับ มีหลังคา มีประตู แล้วก็หน้าต่าง แค่นี้มันก็คงเป็นบ้านส่งครูได้แล้วเนอะ

ทีแรกตั้งใจว่าจะให้มันออกมาแนว tropical modern cottage แต่ก็นะ...ไม่อยากจะคุยนะครับว่าที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ (ยากจน) ก็เลยได้แค่นี้แหละครับ กระท่อมไม้ไผ่มุงใบตองตึง แต่ข้างในนะ..ขอไฮ ๆ นิดนึงแล้วกัน ว่างเปล่า ไม่เห็นมีไรเลย

วิวจากในบ้าน (จริง ๆ แล้วมันเป็นห้องนอนห้องเดียว) (อะ...พักไปล้างหน้าล้างตาแวบนึงได้นะครับ...เผื่อใครเริ่มรู้สึกร้อน ๆ ที่ตา ฮ่า ๆ ๆ)

ติดม่านไป...เริ่มดูดี (หรือยัง ?)

ใส่เตียงเข้าไป นอนได้แล้วจ้า แต่ข้อเสียอย่างนึงของหลังคาตองตึงก็คือ มันจะมีฝุ่นตกลงมาเป็นประจำตอนที่มีลมพัดแรง ๆ ก็เลยต้องปัดกวาดกันบ่อยหน่อย หรือไม่ก็ต้องหาผ้ามาคลุมที่นอนไว้อย่างนี้แหละครับ แต่ว่าก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อยเลย อันดับแรกเลยคือ ไม่ร้อนถึงแม้ว่าหน้าร้อนจะนอนโดยไม่มีพัดลมก็ตาม เป็นการช่วยลดพลังงานและลดโลกร้อนไปในตัวด้วยนะครับ (เหตุผลนี้ดูดีจัง ฮ่า ๆ ๆ) ข้อต่อมาคือ ชาวบ้านมีรายได้จากการไปเก็บใบตึงมาทำตองนี้แหละครับ ข้อดีที่สุดก็คือ ไม่แพงครับ ราคาใบตองตึงแผงนึงก็ประมาณ 4-5 บาท บ้านผมหลังนึงนี่กว้าง 4x6 เมตร ก็ไม่เล็กไม่ใหญ่นะครับ ใช้ตองประมาณ 500 แผง คิดออกมาเป็นเงินแล้วก็แค่ 2 พันบาทเองครับ แต่จะไปหนักค่าโครงหลังคานะครับ รู้งี้เอาเป็นโครงเหล็กถูกกว่าโครงไม้สักเยอะเลยล่ะ

ส่วนห้องน้ำก็ใหญ่โตอลังการไปหน่อย เพราะมีคนบอกอยู่เสมอว่า ห้องที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดก็คือห้องน้ำนี่แหละครับ แล้วผมก็ชอบอยู่ส่วนตั๊วส่วนตัวซะด้วย ก็เลยขอหน่อยแล้วกัน ห้องน้ำใหญ่ ๆ พร้อมสวนส่วนตัวในห้องน้ำ...อิอิ

กลับไปนั่งเล่นกันที่ศาลากันดีกว่า วัน ๆ ก็ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้แหละครับ เพราะพื้นที่ส่วนอื่นไม่มีร่มไม้ให้ไปนอนงีบเลย

เชื่อมั้ยว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้ได้ทั้งวัน

อะ...เกือบลืม ว่าจะอวดห้องน้ำอีกสักห้องตรงศาลานะครับ โอเพ่นแอร์ด้วยล่ะ น้องนกชอบมาแอบดูผมประจำเลย แล้วก็ของแพงสุดก็ประตูนี่แหละครับ...หุ ๆ ๆ

อันนี้ไอเดียจากหนังสือบ้านและสวนครับ ประหยัด หรู ดูไฮโซ ลองเอาไปทำดูได้นะครับ ใช้ลวดมัดกระถางกล้วยไม้แล้วนำมาต่อ ๆ กันแบบนี้ครับ ใช้เวลาแป๊บเดียวก็เสร็จ ทาสีให้นิดนึง ดูมีคุณค่าน่าใช้ขึ้นเป็นกอง งบประมาณร้อยกว่าบาทเอง

เค้าว่าห้องน้ำบ้านผมไฮโซไปหน่อยป่ะ มาดูกันดีกว่าว่าไฮไซเค้าใช้เงินไปกี่บาท

อ่างแก้วนี้ จากโฮมโปร 790 บาท

ก๊อกน้ำล้างจาน 250 บาท

ชักโครกลดราคา 1,999 บาท

สายฉีด 150 บาท

โถฉี่ (ไม่มีในรูปอะ มันแอบอยู่ข้างประตู) 690 บาท

นอกจากของพวกนี้ก็มีค่าท่อน้ำประปากับท่อน้ำทิ้ง หลายร้อยอยู่เหมือนกัน

ส่วนผนังด้านนอกก็ยกให้กล้วยไม้เค้าไปนะครับ หน้าร้อนนะขยันออกดอกกันจริง ๆ เลยครับ ไม่เสียแรงที่เลี้ยงมาเป็นปี

ส่วนใหญ่ก็เก็บ ๆ มาแถวชายทุ่ง...แล้วก็มีอยู่ไม่น้อยเลยที่ลุง ๆ ป้า ๆ คุณตา คุณยาย ชาวบ้านแถวนี้ เค้าแบ่งปันมาให้หลาน ๆ อย่างผมปลูกดู ที่ชอบมากที่สุดก็เป็นนี่เลยครับ เอื้องแซะ...หอมมาก